นักสะสมฟัน
โบราณว่าไว้ ฟันล่างให้โยนขึ้นบน ฟันบนให้ทิ้งลงล่าง...(ข้อความที่ขาดหายไปและมนุษย์เราต่างลืมเลือนกันแล้วคือ เพื่อมอบเป็นเครื่องบรรณาการแด่นักสะสมฟัน)
ผู้เข้าชมรวม
12,809
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ประกาศ
หนังสือวางแผงแล้ว !
พบกันได้ในร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปครับ
เรื่องนี้ได้เลือกให้เป็น Book of the month ประจำเดือนมิถุนายน 2552 ด้วยครับ
คลิกเข้าติดตามรายละเอียดกันได้ทีนี่เลย!
ลิ้งค์วิจารณ์หนังสือโดยพี่อติน>>> http://www.dek-d.com/content/view.php?id=15562
ลิ้งค์สัมภาษณ์นักเขียน>>> http://www.dek-d.com/content/writer/15563/ชัยยา.htm
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน
หากไม่มีท่าน หนังสือเล่มนี้ก็เป็นแต่เพียงเสียงกรีดร้องโหยหวนในที่มืดว่างเปล่าเท่านั้น
ผลงานอื่นๆ ของ ชัยยา ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ชัยยา
"ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน”"
(แจ้งลบ)ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน” บ่อยครั้งที่ “นิยาย” ส่งผลสะเทือนต่อ “ร่างกาย” โดยตรง ด้วยว่าจิตใจนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้สึก และนิยายใดที่เขียนดีพอ ย่อมมีผลต่อจิตใจที่บังคับร่างกายนั้นไปด้วย “นักสะสมฟัน” นิยายสยองขวัญเรื่องใหม่ของชัยยา ผู้เขียน “ทีนอส” ก็เป็นนิยายที่มีพลังพอจะ ... อ่านเพิ่มเติม
ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน” บ่อยครั้งที่ “นิยาย” ส่งผลสะเทือนต่อ “ร่างกาย” โดยตรง ด้วยว่าจิตใจนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้สึก และนิยายใดที่เขียนดีพอ ย่อมมีผลต่อจิตใจที่บังคับร่างกายนั้นไปด้วย “นักสะสมฟัน” นิยายสยองขวัญเรื่องใหม่ของชัยยา ผู้เขียน “ทีนอส” ก็เป็นนิยายที่มีพลังพอจะบีบคั้นจิตใจให้รู้สึกปวดฟันไปตามภาษาที่เขาใช้ในนิยายได้เช่นกัน ประตูที่ปิดไม่สนิท : นิยายซ้อนนิยายที่เชื่อมเกือบไม่สนิท “นักสะสมฟัน” หลอกล่อเราตั้งแต่คำนำผู้เขียน และบทนำที่อ้างว่าเขียนขึ้นโดยฝีมือของ “ท็อป” ตัวเอกของเรื่อง ก่อนที่จะดำเนินเรื่องคู่ขนานระหว่างไดอารี่ของท็อป กับเรื่องราวของนักสะสมฟัน ซึ่งทั้งสองเรื่องก็มีวัตถุเด่นที่แตกต่างกันในการเขย่าขวัญคนอ่าน ในภาคไดอารี่ “ปากกา” ที่ท็อปได้มาจากร้านขายของเก่าเป็นเครื่องมือที่เขาใช้ถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญออกมาในนิยาย รวมทั้งเรื่องสยองที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ส่วนในนิยายนั้น ความน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับพิมพ์ขวัญซึ่งเป็นตัวละครหลัก มี “ประตู” เป็นจุดดึงความสนใจให้ชวนติดต่อและหวาดผวาว่า “ประตู” นั้นปิดสนิทแน่หรือ การนำเสนอนิยายซ้อนนิยายในรูปแบบนี้เป็นเรื่องท้าทายความสามารถ และชัยยาก็เขียนออกมาได้เข้าขั้นดี เสียดายว่าส่วนท้ายของนิยายที่ชัยยาตัดฉากให้แม่ของท็อปมาอธิบายอาการทางจิตของลูก ว่าเชื่อมโยงกับนิยายและไดอารี่ที่เขาเขียนอย่างไรดูไม่กลมกลืนนัก(หน้า ๒๔๙ - ๒๗๕) และสำนวนการเขียนที่อ้างว่าเป็นของนักกฎหมายเฉพาะก็ไม่ได้แตกต่างจากสำนวนของท็อป(ที่อ้างมาข้างต้น) เท่าที่ควร แม้จะเห็นได้ว่าพยายามแทรกเอาศัพท์กฎหมายและการเขียนเป็นหัวข้อประเด็นมาแทรกแล้วก็ตาม อย่างไรก็ดี การแทรกส่วนที่แม่ของท็อปเขียนก็ดูสมเหตุสมผลตามบทตามก่อนจะจบบริบูรณ์ ประตูของการเชื่อมเรื่องนิยายที่ฝืดอยู่จึงได้รับการหยอดน้ำมันลงให้ปิดลงได้สนิทในที่สุด เงามืดและแสงเทียนริบหรี่ของร้านขายของเก่า : ฉากพรรณนาชวนสยองขวัญที่ดีกว่าเดิม “ชัยยา” ได้พัฒนาการบรรยายฉากให้ดีขึ้นจากนิยายเล่มที่แล้วมาก ประโยคเช่น “เทียนเพียงเล่มเดียวไม่อาจขับไล่ความมืดได้ทั้งหมด แทนที่จะช่วยให้อุ่นใจกลับส่งเงาน่ากลัววูบไหวทาบผนัง”(หน้า ๒๒ : ๒๓-๒๔) ให้ทั้งภาพ สี และแสงออกมาอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อถึงคราวบรรยายความสยดสยองภายในใจ ชัยยาก็ไม่ได้มีฝีมือลดน้อยถอยลงเลย ยิ่งเมื่อเข้าถึงบทถึงเลือดถึงเนื้อ การลดความน่าขยะแขยงจากภายนอกมาเน้นสภาพความกลัวภายในจิตใจนับเป็นพัฒนาการที่น่าชื่นชม ภาพของพิมพ์ขวัญยิ้มแสยะโดยมีเลือดกบปากทั้งๆที่ฟันคู่หน้าโหว่อยู่เ(หน้า ๑๔๖) ป็นภาพที่นักอ่านอาจจะเก็บไปฝันร้ายเอาได้ง่ายๆ ในช่วงนี้เองที่การวางพล็อตหลักเข้ามามีบทบาทต่อความไม่เท่ากันของบทบรรยาย ชัยยาวางภาพซ้อนอธิบายว่า แต่ละบทที่ท็อปเขียนเรื่องนั้น เขาใช้กลวิธีแตกต่างกันเนื่องจากเพิ่งหัดเขียนเป็นครั้งแรก และเขียนขึ้นมาด้วยพลังอาถรรพ์ จนฉากทั้งหมดกลมกลืนกันได้ภายในความไม่กลมกลืน ซึ่งหากเกิดขึ้นจากความจงใจของชัยยาเองแล้ว ก็นับว่าเป็นวิธีทางการเขียนที่น่าสนใจมากทีเดียว บ้านในความมืด : ปัญหาทางจิตของครอบครัวตัวละครซ้อนนิยาย ตามขนบของนิยายสยองขวัญสไตล์ สตีเฟน คิง ซึ่งชัยยาได้รับอิทธิพลมามาก มักจะมีปัญหาทางจิตของคนในครอบครัวซ้อนอยู่กับเรื่องราวสยองขวัญด้วย ประเด็นการสร้างตัวละครวิชิตใน “นักสะสมฟัน” ของท็อป ที่เกิดขึ้นจากภาพสมมติของพ่อในชีวิตจริง พิมพ์ขวัญซึ่งจำลองแบบแม่ และฟ้าใสที่เป็นร่างถอดรูปของตัวเอง เป็นรูปแบบสามัญซึ่งไม่ยากเกินกว่าผู้ชื่นชอบนิยายของคิง หรือผู้อ่านนิยายเชิงจิตวิทยามามากจะเดาได้ตั้งแต่กลางๆเรื่อง แต่ใน “นักสะสมฟัน” ตัวละครนักกฎหมายที่อธิบายทุกเรื่องด้วยตรรกะอย่างแม่ของท็อป ได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้อธิบายปมทางจิตของเรื่องนี้ในตอนท้าย ทำให้ความสนุกสนานของการทิ้งให้ตีความต่อหายไป และลดโทนของเรื่องลึกลับลงไปมาก อย่างไรก็ตาม การเน้นความรักของแม่ที่มีต่อลูก ทั้งในช่วงของ “นักสะสมฟัน” และในชีวิตของท็อป พิมพ์ขวัญนักกฎหมายที่เลี้ยงลูกจนโตเป็นหนุ่มมาได้คนเดียว กับพิมพ์ขวัญแม่บ้านที่เลี้ยงดูฟ้าใสโดยยอมลาออกจากงานประจำที่ทำ ก็เป็นจุดที่โดดเด่นออกมาอย่างน่าประทับใจและชวนให้ตระหนักคิดว่า ครอบครัวที่ขาดความเอาใจใส่จากพ่อ ก็อาจทำให้เกิดปมในใจของทั้งลูกและแม่ได้จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น สัญญาต่างตอบแทนของนักสะสมฟัน : ฟันผุของพล็อตเรื่อง แม้ว่าชัยยาจะบรรยายความรักระหว่างแม่และลูกได้เป็นอย่างดี และความสยองที่เข้าขั้น แต่แกนเรื่องหลักของนักสะสมฟันกลับลอยอยู่จนจับประเด็นไม่ได้ ชัยยาไม่ได้เล่าถึงความเป็นมาของนักสะสมฟันว่า ทำไมมันถึงถูกผนึกลง ความแค้นของมันเกิดขึ้นได้อย่างไร และที่สำคัญคือ สัญญาที่มันอ้างว่า “ฟันบนโยนขึ้นฟ้า ฟันล่างโยนลงดิน” เกิดขึ้นด้วยเหตุใด บอกเพียงแต่ว่ามนุษย์ผิดสัญญาแถมไพล่ไปยกเอาตำนานฝรั่งมาเล่าเป็นวรรคเป็นเวรโดยไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่างหาก เมื่อประเด็นหลักของเรื่องไม่ชัดเจน ความแค้นและความรุนแรงทั้งหมดที่เกิดขึ้นของนักสะสมฟันก็ดูไม่มีเหตุผลพอให้เกรงกลัว คล้ายกับว่าตัวนักสะสมฟันเป็นฟันผุเสียเองก็ว่าได้ หากชัยยาจะยอมเสียเวลาทรมาน “ท็อป” อีกสักสองสามหน้า เอาที่มาของนักสะสมฟันเขียนลงในนิยาย คงจะเป็นโลหะอะมัลกัมมาอุดฟันผุของพล็อตเรื่องไหว พ่อไม่อยู่บ้าน : เหตุจากพิษเศรษฐกิจและสังคมที่ส่งผลต่อบ้าน ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจของ “นักสะสมฟัน” คือการขาดหายไปของ “พ่อ” ไม่ว่าจะเป็นวิชิตในนิยาย หรือ พ่อของท็อปตามเนื้อเรื่อง ซึ่งหากวิเคราะห์ลึกๆแล้ว ทั้งคู่หายไปเพราะพิษเศรษฐกิจ วิชิตในเรื่องต้องทำงานหนักเพื่อพยุงบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากการชุมนุมทางการเมือง ส่วนพ่อของท็อปที่ยิงตัวตาย แม้ไม่บอกมาโดยตรงก็อาจอนุมานได้ว่าเกิดจากพิษเศรษฐกิจเมื่อราว พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่นักธุรกิจและนักลงทุนขาดทุนจนต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ พิมพ์ขวัญในนิยายขาดความมั่นใจจนเปิดช่องว่างให้นักสะสมฟันเข้ามาแทรกแซงจิตใจ ส่วนในโลกของท็อป เขาก็สั่งสมปมทางใจที่เห็นการตายของพ่อผนวกกับภาวะสับสนของความรักและการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจนระเบิดออกมาตามนิยายอาถรรพ์เรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าโศกนาฏกรรมในครอบครัวอาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของภาพรวมของสังคมมหภาค ที่อาจแผ่ไปถึงบ้านของคุณได้อย่างไม่คาดคิด คุณปวดฟันอยู่หรือเปล่า? : ฟันล่างให้โยนขึ้นบน ฟันบนให้ทิ้งลงล่าง ผมอ่านนักสะสมฟันจบด้วยอาการปวดฟัน! ไม่ใช่เพราะนักสะสมฟันคืบคลานมาหา แต่เพราะว่าผมปล่อยให้ฟันผุนานเกินไปแล้ว เห็นทีผมคงต้องไปพบทันตแพทย์เสียที แต่ถ้าผมถอนฟันออกมา ผมจะไม่ลืมว่า “ฟันล่างให้โยนขึ้นบน ฟันบนให้ทิ้งลงล่าง” อย่างแน่นอน ทางทีดี คุณควรรักษาสุขภาพฟันดีกว่า เวลาอ่านนักสะสมฟันจะได้ไม่ปวดฟันแบบผม วันนี้คุณแปรงฟันแล้วหรือยัง? อ่านน้อยลง
เทราสเฟียร์ เอล เซราฟีเตอร์ | 22 ส.ค. 52
19
0
"ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน”"
(แจ้งลบ)ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน” บ่อยครั้งที่ “นิยาย” ส่งผลสะเทือนต่อ “ร่างกาย” โดยตรง ด้วยว่าจิตใจนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้สึก และนิยายใดที่เขียนดีพอ ย่อมมีผลต่อจิตใจที่บังคับร่างกายนั้นไปด้วย “นักสะสมฟัน” นิยายสยองขวัญเรื่องใหม่ของชัยยา ผู้เขียน “ทีนอส” ก็เป็นนิยายที่มีพลังพอจะ ... อ่านเพิ่มเติม
ผมปวดฟัน! หลังจากอ่าน “นักสะสมฟัน” บ่อยครั้งที่ “นิยาย” ส่งผลสะเทือนต่อ “ร่างกาย” โดยตรง ด้วยว่าจิตใจนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้สึก และนิยายใดที่เขียนดีพอ ย่อมมีผลต่อจิตใจที่บังคับร่างกายนั้นไปด้วย “นักสะสมฟัน” นิยายสยองขวัญเรื่องใหม่ของชัยยา ผู้เขียน “ทีนอส” ก็เป็นนิยายที่มีพลังพอจะบีบคั้นจิตใจให้รู้สึกปวดฟันไปตามภาษาที่เขาใช้ในนิยายได้เช่นกัน ประตูที่ปิดไม่สนิท : นิยายซ้อนนิยายที่เชื่อมเกือบไม่สนิท “นักสะสมฟัน” หลอกล่อเราตั้งแต่คำนำผู้เขียน และบทนำที่อ้างว่าเขียนขึ้นโดยฝีมือของ “ท็อป” ตัวเอกของเรื่อง ก่อนที่จะดำเนินเรื่องคู่ขนานระหว่างไดอารี่ของท็อป กับเรื่องราวของนักสะสมฟัน ซึ่งทั้งสองเรื่องก็มีวัตถุเด่นที่แตกต่างกันในการเขย่าขวัญคนอ่าน ในภาคไดอารี่ “ปากกา” ที่ท็อปได้มาจากร้านขายของเก่าเป็นเครื่องมือที่เขาใช้ถ่ายทอดเรื่องราวสยองขวัญออกมาในนิยาย รวมทั้งเรื่องสยองที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ส่วนในนิยายนั้น ความน่ากลัวที่เกิดขึ้นกับพิมพ์ขวัญซึ่งเป็นตัวละครหลัก มี “ประตู” เป็นจุดดึงความสนใจให้ชวนติดต่อและหวาดผวาว่า “ประตู” นั้นปิดสนิทแน่หรือ การนำเสนอนิยายซ้อนนิยายในรูปแบบนี้เป็นเรื่องท้าทายความสามารถ และชัยยาก็เขียนออกมาได้เข้าขั้นดี เสียดายว่าส่วนท้ายของนิยายที่ชัยยาตัดฉากให้แม่ของท็อปมาอธิบายอาการทางจิตของลูก ว่าเชื่อมโยงกับนิยายและไดอารี่ที่เขาเขียนอย่างไรดูไม่กลมกลืนนัก(หน้า ๒๔๙ - ๒๗๕) และสำนวนการเขียนที่อ้างว่าเป็นของนักกฎหมายเฉพาะก็ไม่ได้แตกต่างจากสำนวนของท็อป(ที่อ้างมาข้างต้น) เท่าที่ควร แม้จะเห็นได้ว่าพยายามแทรกเอาศัพท์กฎหมายและการเขียนเป็นหัวข้อประเด็นมาแทรกแล้วก็ตาม อย่างไรก็ดี การแทรกส่วนที่แม่ของท็อปเขียนก็ดูสมเหตุสมผลตามบทตามก่อนจะจบบริบูรณ์ ประตูของการเชื่อมเรื่องนิยายที่ฝืดอยู่จึงได้รับการหยอดน้ำมันลงให้ปิดลงได้สนิทในที่สุด เงามืดและแสงเทียนริบหรี่ของร้านขายของเก่า : ฉากพรรณนาชวนสยองขวัญที่ดีกว่าเดิม “ชัยยา” ได้พัฒนาการบรรยายฉากให้ดีขึ้นจากนิยายเล่มที่แล้วมาก ประโยคเช่น “เทียนเพียงเล่มเดียวไม่อาจขับไล่ความมืดได้ทั้งหมด แทนที่จะช่วยให้อุ่นใจกลับส่งเงาน่ากลัววูบไหวทาบผนัง”(หน้า ๒๒ : ๒๓-๒๔) ให้ทั้งภาพ สี และแสงออกมาอย่างเห็นได้ชัด และเมื่อถึงคราวบรรยายความสยดสยองภายในใจ ชัยยาก็ไม่ได้มีฝีมือลดน้อยถอยลงเลย ยิ่งเมื่อเข้าถึงบทถึงเลือดถึงเนื้อ การลดความน่าขยะแขยงจากภายนอกมาเน้นสภาพความกลัวภายในจิตใจนับเป็นพัฒนาการที่น่าชื่นชม ภาพของพิมพ์ขวัญยิ้มแสยะโดยมีเลือดกบปากทั้งๆที่ฟันคู่หน้าโหว่อยู่เ(หน้า ๑๔๖) ป็นภาพที่นักอ่านอาจจะเก็บไปฝันร้ายเอาได้ง่ายๆ ในช่วงนี้เองที่การวางพล็อตหลักเข้ามามีบทบาทต่อความไม่เท่ากันของบทบรรยาย ชัยยาวางภาพซ้อนอธิบายว่า แต่ละบทที่ท็อปเขียนเรื่องนั้น เขาใช้กลวิธีแตกต่างกันเนื่องจากเพิ่งหัดเขียนเป็นครั้งแรก และเขียนขึ้นมาด้วยพลังอาถรรพ์ จนฉากทั้งหมดกลมกลืนกันได้ภายในความไม่กลมกลืน ซึ่งหากเกิดขึ้นจากความจงใจของชัยยาเองแล้ว ก็นับว่าเป็นวิธีทางการเขียนที่น่าสนใจมากทีเดียว บ้านในความมืด : ปัญหาทางจิตของครอบครัวตัวละครซ้อนนิยาย ตามขนบของนิยายสยองขวัญสไตล์ สตีเฟน คิง ซึ่งชัยยาได้รับอิทธิพลมามาก มักจะมีปัญหาทางจิตของคนในครอบครัวซ้อนอยู่กับเรื่องราวสยองขวัญด้วย ประเด็นการสร้างตัวละครวิชิตใน “นักสะสมฟัน” ของท็อป ที่เกิดขึ้นจากภาพสมมติของพ่อในชีวิตจริง พิมพ์ขวัญซึ่งจำลองแบบแม่ และฟ้าใสที่เป็นร่างถอดรูปของตัวเอง เป็นรูปแบบสามัญซึ่งไม่ยากเกินกว่าผู้ชื่นชอบนิยายของคิง หรือผู้อ่านนิยายเชิงจิตวิทยามามากจะเดาได้ตั้งแต่กลางๆเรื่อง แต่ใน “นักสะสมฟัน” ตัวละครนักกฎหมายที่อธิบายทุกเรื่องด้วยตรรกะอย่างแม่ของท็อป ได้เข้ามาทำหน้าที่ผู้อธิบายปมทางจิตของเรื่องนี้ในตอนท้าย ทำให้ความสนุกสนานของการทิ้งให้ตีความต่อหายไป และลดโทนของเรื่องลึกลับลงไปมาก อย่างไรก็ตาม การเน้นความรักของแม่ที่มีต่อลูก ทั้งในช่วงของ “นักสะสมฟัน” และในชีวิตของท็อป พิมพ์ขวัญนักกฎหมายที่เลี้ยงลูกจนโตเป็นหนุ่มมาได้คนเดียว กับพิมพ์ขวัญแม่บ้านที่เลี้ยงดูฟ้าใสโดยยอมลาออกจากงานประจำที่ทำ ก็เป็นจุดที่โดดเด่นออกมาอย่างน่าประทับใจและชวนให้ตระหนักคิดว่า ครอบครัวที่ขาดความเอาใจใส่จากพ่อ ก็อาจทำให้เกิดปมในใจของทั้งลูกและแม่ได้จนเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น สัญญาต่างตอบแทนของนักสะสมฟัน : ฟันผุของพล็อตเรื่อง แม้ว่าชัยยาจะบรรยายความรักระหว่างแม่และลูกได้เป็นอย่างดี และความสยองที่เข้าขั้น แต่แกนเรื่องหลักของนักสะสมฟันกลับลอยอยู่จนจับประเด็นไม่ได้ ชัยยาไม่ได้เล่าถึงความเป็นมาของนักสะสมฟันว่า ทำไมมันถึงถูกผนึกลง ความแค้นของมันเกิดขึ้นได้อย่างไร และที่สำคัญคือ สัญญาที่มันอ้างว่า “ฟันบนโยนขึ้นฟ้า ฟันล่างโยนลงดิน” เกิดขึ้นด้วยเหตุใด บอกเพียงแต่ว่ามนุษย์ผิดสัญญาแถมไพล่ไปยกเอาตำนานฝรั่งมาเล่าเป็นวรรคเป็นเวรโดยไม่เกี่ยวข้องกันอีกต่างหาก เมื่อประเด็นหลักของเรื่องไม่ชัดเจน ความแค้นและความรุนแรงทั้งหมดที่เกิดขึ้นของนักสะสมฟันก็ดูไม่มีเหตุผลพอให้เกรงกลัว คล้ายกับว่าตัวนักสะสมฟันเป็นฟันผุเสียเองก็ว่าได้ หากชัยยาจะยอมเสียเวลาทรมาน “ท็อป” อีกสักสองสามหน้า เอาที่มาของนักสะสมฟันเขียนลงในนิยาย คงจะเป็นโลหะอะมัลกัมมาอุดฟันผุของพล็อตเรื่องไหว พ่อไม่อยู่บ้าน : เหตุจากพิษเศรษฐกิจและสังคมที่ส่งผลต่อบ้าน ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจของ “นักสะสมฟัน” คือการขาดหายไปของ “พ่อ” ไม่ว่าจะเป็นวิชิตในนิยาย หรือ พ่อของท็อปตามเนื้อเรื่อง ซึ่งหากวิเคราะห์ลึกๆแล้ว ทั้งคู่หายไปเพราะพิษเศรษฐกิจ วิชิตในเรื่องต้องทำงานหนักเพื่อพยุงบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจากการชุมนุมทางการเมือง ส่วนพ่อของท็อปที่ยิงตัวตาย แม้ไม่บอกมาโดยตรงก็อาจอนุมานได้ว่าเกิดจากพิษเศรษฐกิจเมื่อราว พ.ศ. ๒๕๔๐ ที่นักธุรกิจและนักลงทุนขาดทุนจนต้องคิดสั้นฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ พิมพ์ขวัญในนิยายขาดความมั่นใจจนเปิดช่องว่างให้นักสะสมฟันเข้ามาแทรกแซงจิตใจ ส่วนในโลกของท็อป เขาก็สั่งสมปมทางใจที่เห็นการตายของพ่อผนวกกับภาวะสับสนของความรักและการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจนระเบิดออกมาตามนิยายอาถรรพ์เรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าโศกนาฏกรรมในครอบครัวอาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของภาพรวมของสังคมมหภาค ที่อาจแผ่ไปถึงบ้านของคุณได้อย่างไม่คาดคิด คุณปวดฟันอยู่หรือเปล่า? : ฟันล่างให้โยนขึ้นบน ฟันบนให้ทิ้งลงล่าง ผมอ่านนักสะสมฟันจบด้วยอาการปวดฟัน! ไม่ใช่เพราะนักสะสมฟันคืบคลานมาหา แต่เพราะว่าผมปล่อยให้ฟันผุนานเกินไปแล้ว เห็นทีผมคงต้องไปพบทันตแพทย์เสียที แต่ถ้าผมถอนฟันออกมา ผมจะไม่ลืมว่า “ฟันล่างให้โยนขึ้นบน ฟันบนให้ทิ้งลงล่าง” อย่างแน่นอน ทางทีดี คุณควรรักษาสุขภาพฟันดีกว่า เวลาอ่านนักสะสมฟันจะได้ไม่ปวดฟันแบบผม วันนี้คุณแปรงฟันแล้วหรือยัง? อ่านน้อยลง
เทราสเฟียร์ เอล เซราฟีเตอร์ | 22 ส.ค. 52
19
0
ความคิดเห็น